✨การจัดการความเสี่ยง (Risk Management)✨
🎯การจัดการความเสี่ยง
(Risk Management) สำหรับองค์กร
การดำเนินธุรกิจในปัจจุบันมีความยุ่งยากและสลับซับซ้อนขึ้นเรื่อยๆและก็ยิ่งเป็นการยากสำหรับผู้บริหารที่จะทราบว่ามีปัญหาอะไรรออยู่ในอนาคตบ้าง
ดังนั้นธุรกิจจึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีกระบวนการอย่างเป็นระบบเพื่อที่จะให้ทราบว่าธุรกิจจะเผชิญปัญหาอะไรและจะหาทางป้องกันอย่างไรเพื่อให้ความสูญเสียที่อาจจะเกิดขึ้นมีผลกระทบต่อธุรกิจน้อยที่สุด
ดังนั้นการจัดการความเสี่ยงจึงหมายถึง
กระบวนการวางแผนการบริหารและการจัดการความเสี่ยง
เพื่อช่วยในการตัดสินใจของบุคคลหรือธุรกิจใดๆในอันที่จะหาวิธีการที่ดีที่สุด
เพื่อใช้เป็นแนวทางในการตัดสินใจแก้ไขปัญหาต่างๆที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต
ทั้งนี้เพื่อลดความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นให้น้อยที่สุด โดยมีค่าใช้จ่ายน้อยที่สุด
🎯การบริหารความเสี่ยง
ความเสี่ยง คือ ความไม่แน่นอนต่อการประสบกับเหตุการณ์ หรือ
สภาวะที่เราต้องเผชิญกับสถานการณ์อันไม่พึงประสงค์โดยมีความน่าจะเป็น
หรือโอกาสในสิ่งนั้นๆมากกว่าศูนย์
การจัดการความเสี่ยง
หรือ การบริหารความเสี่ยง (Risk Management) คือ กระบวนการในการระบุ (Risk Identification) วิเคราะห์ (Risk analysis) ประเมิน (Risk assessment) ดูแลตรวจสอบและควบคุมความเสี่ยง (Risk Control) ที่สัมพันธ์กับกิจกรรม หน้าที่และกระบวนการทำงาน
เพื่อให้องค์กรลดความเสียหายจากความเสี่ยงมากที่สุด
อันเนื่องมาจากภัยที่องค์กรต้องเผชิญในช่วงเวลาใดเวลาหนึ่ง
🎯นิยามของความเสี่ยง
ความเสี่ยงมีความหมายในหลากหลายแง่มุม
เช่น ความเสี่ยงคือ
© โอกาสที่เกิดขึ้นแล้วธุรกิจจะเกิดความเสียหาย (Chance of Loss)
© ความเป็นไปได้ที่จะเกิดความเสียหายต่อธุรกิจ (Possibility of Loss)
© ความไม่แน่นอนของเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้น (Uncertainty of Event)
© การคลาดเคลื่อนของการคาดการณ์ (Dispersion of Actual Result)
🎯ปัจจัยที่ก่อให้เกิดความเสี่ยง
ปัจจัยที่ก่อให้เกิดความเสี่ยง อาจมาได้จากหลายสาเหตุ เช่น ระบบงานขององค์กร บุคลากร การเงินการคลัง การเมืองเศรษฐกิจ การเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยี ลูกค้าหรือผู้รับบริการ สภาพการแข่งขัน เป็นต้น
และอาจมีแหล่งที่มาของความเสี่ยงทั้งภายในองค์กรและภายนอกองค์กร ดังนี้
ความเสี่ยง
ภายในองค์กร เช่น
© สถานที่ทำงานที่ไม่ปลอดภัย
© ระบบบัญชีที่ไม่น่าเชื่อถือ
© วัฒนธรรมองค์กรที่ไม่เอื้อต่อการสร้างประสิทธิภาพการทำงาน
© การฝึกอบรมพนักงานที่ไม่เพียงพอ
© ความขัดแย้งทางผลประโยชน์ (Conflict
of Interest) เป็นต้น
ความเสี่ยงภายนอกองค์กร เช่น
© การเปลี่ยนแปลงในกฎหมาย
© การเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจ
© กระแสโลกาภิวัฒน์
© เสถียรภาพทางการเมือง
© การเปลี่ยนแปลงในพฤติกรรมผู้บริโภค
© กระแสสังคม สิ่งแวดล้อม
© การเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี เป็นต้น
ซึ่งในการดำเนินโครงการใด โครงการหนึ่งขององค์กร
อาจมีปัจจัยที่ก่อให้เกิดความเสี่ยงของโครงการ ดังแผนภูมิที่ 1 ดังนี้
แผนภูมิที่ 1 ปัจจัยที่ก่อให้เกิดความเสี่ยงของโครงการ
ผู้บริหารหรือผู้บริหารโครงการ
จึงต้องการเห็นอนาคตของโครงการ
การเผชิญกับปัญหาที่ไม่ได้คาดการณ์ไว้ล่วงหน้า
และการเข้าไปสอดแทรกการดำเนินการให้ประสบการณ์ความสำเร็จโดยศึกษาและทำความเข้าใจระหว่างโครงการกับข้อจำกัดที่ก่อให้เกิดความเสี่ยง
ตามแผนภูมิที่ 2 ดังนี้
จากแผนภูมิที่ 2
ข้อจำกัดของโครงการได้แก่ ระยะเวลาการดำเนินการที่มีการประเมินความเสี่ยงไว้แล้วก็อาจผิดพลาดได้
เป็นเหตุให้ต้องเพิ่มค่าใช้จ่ายและยืดระยะเวลา
การปฏิบัติการออกไปอีกซึ่งจะทำให้ผลผลิตหรือผลิตภัณฑ์ไม่เป็นไปตามเป้าหมาย
หรือโครงการประสบความล้มเหลวได้
หากยอมรับความล่าช้านั้น ก็ต้องเพิ่มงบประมาณและผลกระทบคือ ค่าใช้จ่ายเกินกว่าที่กำหนดไว้
วันสิ้นสุดของโครงการผิดพลาดและก่อให้เกิดความเสียหายต่อชื่อเสียงของธุรกิจหรือโครงการในกรณีที่ต้องจัดสรรทรัพยากรเพิ่มเติมผลก็จะจบลงที่ค่าใช้จ่ายของโครงการเกินวงเงินที่กำหนดไว้เช่นเดียวกันดังแผนภูมิที่
3
🎯ความสำคัญของการบริหารความเสี่ยง
การนำกระบวนการบริหารความเสี่ยงมาใช้ในองค์กร
จะช่วยให้เป็นหลักประกันในระดับหนึ่งว่าการดำเนินการต่าง ๆ ขององค์กร
จะมีการดำเนินการให้บรรลุเป้าหมายที่วางไว้
เนื่องจากการบริหารความเสี่ยงเป็นการทำนายอนาคตอย่างมีเหตุมีผล
มีหลักการและหาทางลดหรือป้องกันความเสียหายในการทำงานแต่ละขั้นตอนไว้ล่วงหน้า
หรือในกรณีที่พบกับเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิด
โอกาสที่จะประสบกับปัญหาน้อยกว่าองค์กรอื่นหรือหากเกิดความเสียหายขึ้น
ก็จะเป็นความเสียหายที่น้อยกว่าองค์กรที่ไม่มีการนำกระบวนการบริหารความเสี่ยงมาใช้
เพราะได้มีการเตรียมการไว้ล่วงหน้า
ในขณะที่องค์กรอื่นที่ไม่เคยมีการเตรียมการหรือไม่มีการนำแนวคิดของกระบวนการบริหารความเสี่ยงมาใช้
เมื่อเกิดสถานการณ์วิกฤตขึ้น องค์กรเหล่านั้นจะประสบกับปัญหาและความเสียหายที่ตามมาโดยยากที่จะแก้ไข
ดังนั้นการนำกระบวนการบริหารความเสี่ยงมาช่วยเสริมร่วมกับการทำงาน
จะช่วยให้ภาระงานที่ปฏิบัติการอยู่เป็นไปตามเป้าหมายที่กำหนดไว้
และป้องกันโอกาสที่จะเกิดความเสี่ยงและปัญหาที่จะเป็นอุปสรรคต่อการดำเนินงาน
การบริหารความเสี่ยงเป็นส่วนหนึ่งของการบริหารจัดการองค์กร
เป็นเรื่องส่วนรวมที่ทุกคนในองค์กร ตั้งแต่คณะกรรมการ ผู้บริหารระดับสูง
จนถึงพนักงานทุกคนควรได้มีส่วนร่วมในการ วิเคราะห์ในเชิงลึก เชิงบูรณาการ
และเชื่อมโยงสัมพันธ์กับการกำหนดกลยุทธ์ นโยบาย แผนงาน แผนปฏิบัติการ
กิจกรรมขององค์กร
ซึ่งการบริหารความเสี่ยงที่ดีจะเป็นการวัดความสามารถและการดำเนินงานของบุคลากรภายในองค์กร สอดคล้องกับพระราชกฤษฎีกาว่าด้วย
หลักเกณฑ์และวิธีการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี พ.ศ. 2546 มาตรา 6 ที่ว่า
“ มาตรา 6
การบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี ได้แก่ การบริหารราชการเพื่อบรรลุเป้าหมาย
ดังต่อไปนี้
🌞(1) เกิดประโยชน์สุขของประชาชน
🌞(2) เกิดผลสัมฤทธิ์ต่อภารกิจของรัฐ
🌞(3) มีประสิทธิภาพและเกิดความคุ้มค่าในเชิงภารกิจของรัฐ
🌞(4) ไม่มีขั้นตอนการปฏิบัติงานเกินความจำเป็น
🌞(5) มีการปรับปรุงภารกิจของส่วนราชการให้ทันต่อสถานการณ์
🌞(6) ประชาชนได้รับการอำนวยความสะดวกและได้รับการตอบสนองความต้องการ
🌞(7) มีการประเมินผลการปฏิบัติราชการอย่างสม่ำเสมอ ”
ดังนั้น องค์กรที่มีการบริหารจัดการที่ดี
จะต้องดำเนินงานบนพื้นฐานของ 3 องค์ประกอบที่สำคัญ คือ การตรวจสอบภายใน (Internal Audit) การควบคุมภายใน (Internal
Control) และการบริหารความเสี่ยง (Risk
Management) ซึ่งสอดคล้องกับหลักการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี
ขั้นตอนการบริหารความเสี่ยงอย่างง่าย
การบริหารความเสี่ยงจึงเป็นเรื่องสำคัญแม้ความเสี่ยงนั้นจะยังคงไม่หมดสิ้นไป
แต่ก็เป็นการควบคุมไม่ให้ปัญหาการบริหารโครงการเกิดขึ้นในระดับรุนแรงจนยากแก่การแก้ไขหรือ เกินความเสียหายต่อองค์การ
การบริหารความเสี่ยงอาจมีขั้นตอนสำคัญ 5 ขั้นตอนคือ
🌟1) การกำหนดโครงสร้างพื้นฐานการจัดการ
🌟2) การกำหนดของเขตการบริหารความเสี่ยงของโครงการ
🌟3) การวิเคราะห์จุดมุ่งหมายของโครงการ
🌟4) การระบุความเสี่ยง
🌟5) การวิเคราะห์ความเสี่ยง
🌟5.1) การวางแผนควบคุมความเสี่ยง
🌟5.2) การควบคุมความเสี่ยง
🎯การหาวิธีการจัดการกับความเสี่ยง
1.การลดความเสี่ยง (Risk Reduction) ความเสี่ยงที่ได้รับอาจลดลงได้
ด้วยวิธีการหาทางป้องกันเพื่อมิให้มีความเสียหายเกิดขึ้นการลดความเสี่ยงนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อที่จะลดจำนวนครั้งของความเสียหายลงหรือลดความรุนแรงของเหตุการณ์ที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต
การวิเคราะห์อาจอาศัยข้อมูลในอดีต ปัจจุบัน
ซึ่งรวมถึงข้อมูลการคาดการณ์ในอนาคตประกอบการตัดสินใจ
2. การรับความเสี่ยงไว้เอง (Risk Retention) คือการที่ผู้บริหารขององค์กรนั้นๆ
ยินยอมที่จะรับภาระความเสี่ยงหรือความเสียหายที่เกิดขึ้นนั้นไว้เอง
เนื่องจากเล็งเห็นว่าโอกาส
หรือความน่าจะเป็นที่จะเกิดความเสียหายอยู่ในวิสัยที่การทำธุรกิจนั้นยอมรับได้
3. การโอนความเสี่ยง
(Risk Transfer) เป็นวิธีการจัดการความเสี่ยงอีกรูปแบบหนึ่งที่ธุรกิจจะต้องวิเคราะห์และตัดสินใจที่จะเลือกโอนความเสี่ยงออกไปในรูปแบบใด
ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความเหมาะสมของธุรกิจนั้นๆ เช่น
การโอนความเสี่ยงไปให้บุคคลอื่นที่มิใช่บริษัทประกันโดยสัญญา
หรือการโอนความเสี่ยงไปให้บริษัทประกันภัยตามรูปแบบและเงื่อนไขที่ธุรกิจต้องการ
4. การหลีกเลี่ยงความเสี่ยง (Risk
Aviodance) การหลีกเลี่ยงความเสี่ยงอาจกระทำได้โดยวิธีการง่ายๆโดยที่ธุรกิจไม่พยายามเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับกิจกรรมที่ก่อให้เกิดความเสี่ยง
อย่างไรก็ตามวิธีการหลีกเลี่ยงความเสี่ยงนี้น่าจะเป็นวิธีสุดท้ายหลังจากที่ได้พิจารณาแล้วเห็นว่าไม่อาจใช้วิธีการอื่นเข้ามาแก้ไขได้เท่านั้น
การตัดสินใจในวิธีการนี้ธุรกิจต้องเปรียบเทียบข้อดีและข้อเสียก่อนการตัดสินใจ
🎯 การคัดเลือกวิธีการที่ดีที่สุด
การตัดสินใจคัดเลือกวิธีการบริหารความเสี่ยงจะต้องคำนึงถึง
© ความรุนแรงที่อาจเกิดขึ้นหากเลือกวิธีการดังกล่าว
และการเตรียมแนวทางแก้ไข
© ค่าใช้จ่ายที่จะใช้ในการจัดการตามวิธีการที่คัดเลือกมีจำนวนมากน้อยเพียงใด
© ผลกระทบต่อฐานะทางการเงินของธุรกิจที่อาจได้รับจากการตัดสินใจเลือกวิธีการดังกล่าว
อย่างไรก็ตาม
ภายหลังจากที่ได้ตัดสินใจเลือกวิธีการที่จะใช้ในการจัดการความเสี่ยงด้วยวิธีใดแล้ว
สิ่งสำคัญที่ต้องพิจารณาคือ
มาตรการที่ได้เลือกใช้นั้นมีความเหมาะสมกับภาวะแวดล้อมในปัจจุบันมากน้อยเพียงใด
ทั้งนี้เพื่อให้ธุรกิจสามารถปรับเปลี่ยนรูปแบบการบริหารความเสี่ยงให้สอดคล้องกับสถานการณ์อันจะเป็นประโยชน์ต่อธุรกิจต่อไป
🎯 รายงานความเสี่ยงที่เหลือ (Residual Risk Reporting)
เมื่อได้ดำเนินการตามแนวทางที่ระบุไว้แล้วก็จะทำการรวบรวมความเสี่ยงที่ยังคงเหลือไปนำเสนอผู้ที่มีอำนาจในการตัดสินใจ
🎯 ติดตามผล และประเมินผล (Monitoring and Evaluation)
เมื่อการดำเนินงานในขั้นต่างๆได้ดำเนินงานผ่านพ้นไป
ขั้นตอนนี้จะเป็นการติดตามผลที่ได้กระทำไป
🎯 ประโยชน์จากการบริหารความเสี่ยง
© เป็นการสร้างฐานข้อมูลความรู้ที่มีประโยชน์ต่อการบริหารและการปฏิบัติงานในองค์กร
© ช่วยสะท้อนให้เห็นภาพรวมของความเสี่ยงต่าง
ๆ ที่สำคัญได้ทั้งหมด
การบริหารความเสี่ยงจะทำให้พนักงานภายในองค์กรมีความเข้าใจถึงเป้าหมายและภารกิจหลักขององค์กร
© เป็นเครื่องมือสำคัญในการบริหารงาน
การบริหารความเสี่ยงเป็นเครื่องมือที่ช่วยให้ผู้บริหารสามารถมั่นใจได้ว่าความเสี่ยงได้รับการจัดการอย่างเหมาะสมและทันเวลา
© ช่วยให้การพัฒนาองค์กรเป็นไปในทิศทางเดียวกัน
การบริหารความเสี่ยงทำให้รูปแบบการตัดสินใจในการปฏิบัติงานขององค์กรมีการพัฒนาไปในทิศทางเดียวกัน
my review here dildos,vibrators,wholesale dildo,dildos,vibrators,dildo,cheap dildo,wholesale dildo,cheap dildo,dildos click now
ตอบลบ